top of page

วิวัฒนาการของการโฆษณาแบบแสดงผลและเทคโนโลยีโฆษณา ตอนที่ 1: จากแบนเนอร์สู่การประมูล: วิวัฒนาการของสื่อแบบแสดงผล

  • รูปภาพนักเขียน: Sofie Pakula
    Sofie Pakula
  • 28 ต.ค.
  • ยาว 1 นาที

ree

จากแบนเนอร์สู่การประมูล — วิวัฒนาการของสื่อแสดงผล

ในยุคแรกเริ่มของอินเทอร์เน็ต การโฆษณาดิจิทัลนั้นเรียบง่ายและคงที่ โฆษณาแบนเนอร์ออนไลน์ชิ้นแรกที่เปิดตัวในปี 1994 โดย AT&T เป็นภาพเดียวพร้อมลิงก์ที่คลิกได้เพียงลิงก์เดียว โฆษณานี้มี อัตราการคลิกผ่าน 44% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยากจะจินตนาการได้เมื่อเทียบกับมาตรฐานในปัจจุบัน แต่ความเรียบง่ายนี้ยังเผยให้เห็นข้อจำกัดของสื่อโฆษณาในยุคแรกๆ ได้แก่ การขาดการกำหนดเป้าหมาย การจัดวางโฆษณาด้วยตนเอง และข้อมูลประสิทธิภาพที่น้อย

ในตอนแรกของซีรีส์ วิวัฒนาการของการโฆษณาแบบแสดงผลและเทคโนโลยีโฆษณานี้ เราจะมาสำรวจว่าการแสดงผลแบบดิจิทัลเติบโตจากยุคเริ่มแรกของแบนเนอร์จนกลายมาเป็นระบบนิเวศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ ข้อมูลผู้ชม และการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ได้อย่างไร


กำเนิดของการโฆษณาดิจิทัล

ช่วงปลายทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 ถือเป็นยุคแรกของการโฆษณาดิจิทัล แบรนด์ต่างๆ เริ่มทดลองใช้ระบบ Cost per Thousand Impressions (CPM) ซึ่งเป็นการจ่ายเงินตามจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกแสดง โดยไม่คำนึงว่าใครจะเห็นโฆษณา

สมัยนั้น การซื้อสื่อเป็น แบบแมนนวลและเน้นความสัมพันธ์ เอเจนซี่จะติดต่อผู้เผยแพร่โฆษณาโดยตรงเพื่อเจรจาเรื่องตำแหน่งโฆษณา ซึ่งมักจะล่วงหน้าหลายสัปดาห์ ประสิทธิภาพของโฆษณาส่วนใหญ่วัดจากจำนวนการแสดงผลและการคลิกผ่าน

แต่เนื่องจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ผู้โฆษณาจึงต้องเผชิญกับความท้าทายหลักสามประการ:

  1. ขนาด – การจัดการข้อตกลงผู้จัดพิมพ์หลายพันรายการด้วยตนเองไม่มีประสิทธิภาพ

  2. ความเกี่ยวข้อง – โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวาง ไม่ใช่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

  3. การวัด – ข้อมูลแคมเปญถูกแยกส่วนและล่าช้า

ประสิทธิภาพที่ไม่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ปูทางไปสู่การพัฒนาทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญครั้งแรกในการโฆษณาดิจิทัล


การเพิ่มขึ้นของเครือข่ายโฆษณา

ในช่วงกลางทศวรรษ 2000 เครือข่ายโฆษณา ได้กลายมาเป็นตัวกลางระหว่างผู้ลงโฆษณาและผู้เผยแพร่โฆษณา โดยรวบรวมสินค้าคงคลังจากหลายเว็บไซต์ ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถซื้อกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง แทนที่จะซื้อทีละเว็บไซต์

โมเดลใหม่นี้ทำให้การกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ทั่วทั้งเว็บง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่:

  • ความโปร่งใสที่จำกัดเกี่ยวกับตำแหน่งที่โฆษณาปรากฏ

  • ความยากลำบากในการควบคุมความถี่และการทำซ้ำ

  • ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ — การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะนำไปใช้ได้

อย่างไรก็ตาม เครือข่ายโฆษณาได้นำเสนอแนวคิด การซื้อผู้ชม โดยเปลี่ยนจุดเน้นจาก ตำแหน่งที่ แสดงโฆษณาไปที่ว่า ใคร เป็นผู้ดูโฆษณา


การเปลี่ยนแปลงไปสู่การคิดแบบโปรแกรม

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น นักโฆษณาก็เริ่มต้องการ ความแม่นยำและประสิทธิภาพที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิด การโฆษณาแบบ Programmatic หรือการซื้อขายสื่ออัตโนมัติแบบเรียลไทม์

แทนที่จะเจรจาตำแหน่งด้วยตนเอง ระบบโปรแกรมจะใช้ข้อมูลและอัลกอริทึมเพื่อตัดสินใจว่าโฆษณาใดควรปรากฏสำหรับการแสดงผลของผู้ใช้แต่ละรายภายในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที

นวัตกรรมนี้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง:

  • ประสิทธิภาพ: แคมเปญสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันด้วยการปรับแต่งอัตโนมัติ

  • ความเกี่ยวข้อง: การกำหนดเป้าหมายที่ใช้ข้อมูลเชิงพฤติกรรม บริบท และข้อมูลประชากร

  • ความโปร่งใส: ผู้โฆษณาสามารถมองเห็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ภายในปี 2010 การซื้อแบบโปรแกรมได้เปลี่ยนจากการทดลองมาเป็นโหมดเริ่มต้นใหม่ของการซื้อแบบดิจิทัล


เหตุใดวิวัฒนาการนี้จึงสำคัญ

วิวัฒนาการจากโฆษณาแบนเนอร์ไปจนถึงการซื้อแบบโปรแกรมไม่ได้เป็นเพียงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการ เปลี่ยนแปลงพื้นฐานในปรัชญาการตลาด อีกด้วย

แทนที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อพื้นที่ นักโฆษณากลับเริ่มจ่ายเงินเพื่อ ความสนใจของผู้ชม แทนที่จะใช้ข้อความที่ใช้ได้กับทุกคน แคมเปญต่างๆ กลายเป็นแบบ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและปรับแต่งเฉพาะบุคคล

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุง ROI สำหรับผู้โฆษณาเท่านั้น แต่ยังปรับเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมสื่ออีกด้วย โดยสร้างระบบนิเวศทั้งหมดของ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีโฆษณา ผู้ให้บริการข้อมูล และ เครื่องมือวัดผล ที่ยังคงกำหนดภูมิทัศน์ดิจิทัลในปัจจุบัน


บทเรียนจากยุคการจัดแสดงในยุคแรก

เมื่อเรามองย้อนกลับไป จะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการของการโฆษณาแบบแสดงภาพมีประเด็นสำคัญๆ มากมายที่ยังคงมีความเกี่ยวข้องในปัจจุบัน:

  1. นวัตกรรมเกิดขึ้นตามหลังความไม่มีประสิทธิภาพ โดยความก้าวหน้าครั้งสำคัญทุกครั้งสามารถแก้ไขปัญหาในการซื้อสื่อด้วยตนเองได้

  2. ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนการตัดสินใจ ความเข้าใจของผู้ชมกลายมาเป็นสกุลเงินใหม่ของการโฆษณา

  3. ระบบอัตโนมัติช่วยปรับขนาดประสิทธิภาพ – ระบบโปรแกรมพิสูจน์แล้วว่าเครื่องจักรสามารถปรับประสิทธิภาพได้เร็วและชาญฉลาดกว่ามนุษย์เพียงอย่างเดียว

บทเรียนในช่วงแรกเหล่านี้วางรากฐานสำหรับการปฏิวัติเทคโนโลยีโฆษณาที่ตามมา ซึ่งขับเคลื่อนด้วยข้อมูล AI และปัญญาประดิษฐ์แบบเรียลไทม์


บทสรุป: รากฐานของเทคโนโลยีโฆษณาสมัยใหม่

เรื่องราวของการโฆษณาแบบดิสเพลย์คือเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างแท้จริง ตั้งแต่แบนเนอร์แบบคงที่ไปจนถึงการเสนอราคาแบบไดนามิก แต่ละยุคสมัยล้วนต่อยอดจากยุคก่อนหน้า ทำให้แคมเปญต่างๆ ตรงเป้าหมาย มีประสิทธิภาพ และวัดผลได้มากขึ้น

ในบทความถัดไปของซีรีส์นี้ เราจะเจาะลึกถึง การเพิ่มขึ้นของเซิร์ฟเวอร์โฆษณาและการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ (RTB) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนการซื้อสื่อจากการคาดเดาให้กลายเป็นวิทยาศาสตร์ข้อมูล


หากคุณต้องการเจาะลึกเซสชันนี้ คุณสามารถรับชมการบรรยายฉบับเต็มได้ที่นี่:


ต้องการทราบว่าสื่อแบบโปรแกรมและเทคโนโลยีโฆษณาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดดิจิทัลของคุณได้อย่างไร คลิกด้านล่างเพื่อขอรับ การตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจาก Audience-IQ ฟรี และค้นพบโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์สื่อของคุณ ลดความสิ้นเปลือง และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)



ปลดล็อคศักยภาพของแบรนด์ของคุณ

ไม่ว่าคุณจะต้องการสื่อที่ชาญฉลาดกว่า CRM ที่แข็งแกร่งกว่า หรือเทคโนโลยีการตลาดที่ดีกว่า เราก็พร้อมออกแบบข้อเสนอที่ตรงใจคุณโดยอิงตามเป้าหมาย งบประมาณ และระยะเวลาของคุณ ไม่ต้องใช้เทมเพลตหรืออะไรฟุ่มเฟือย มีเพียงไอเดียที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

วิธีการทำงานเป็นดังนี้:

  1. กรอกแบบฟอร์มพร้อมรายละเอียดสั้นๆ เพียงไม่กี่อย่าง

  2. เราจะติดต่อคุณเพื่อชี้แจงเป้าหมายและถามคำถามสำคัญต่างๆ

  3. คุณจะได้รับข้อเสนอที่เหมาะสมพร้อมคำแนะนำและราคาที่ชัดเจน

คุณกำลังมองหาโซลูชั่นอะไรอยู่?
วัตถุประสงค์
bottom of page