จะทำโฆษณาต้องให้ราคากับฐานข้อมูลลูกค้ามากกว่านี้

โลกทุกวันนี้ กระแสงบโฆษณามันไปเทอยู่กับช่องทางออนไลน์ซะหมด เป็นเรื่องน่าฉุกคิดสำหรับเจ้าของธุรกิจกับทีมบัญชีในบริษัททุกคน น่าคิดว่า ข้อมูลของลูกค้า มีคุณค่ามากแค่ไหน เหมือนเงินสดหรือทองที่สามารถคำนวณมูลค่าออกมาได้บนบัญชีหรือเปล่า น่าเศร้าที่ส่วนมากนักทำโฆษณา แบรนด์และนักธุรกิจส่วนมากไม่ได้ให้ความสนใจในเรืองนี้ ด้วยความไม่รู้และขาดทักษะการจัดการกับข้อมูลลูกค้า วันนี้เราจะมาสรุปให้อ่านง่ายๆ เป็นเรื่องควรรู้สำหรับทั้ง Marketing Manager และ Finance Manager:

#1: ออกแบบกลยุทธ์วิธีเก็บข้อมูลลูกค้า:

กำหนดวิธีเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคผ่านการยื่นหมู่ยื่นแมว ยกตัวอย่างเช่น เพราะบังคับ ไม่สมัครซื้อไม่ได้ หรือ ไวไฟฟรี โปรแกรม Loyalty แบบสอบถามความพึงพอใจ และอื่นๆ

#2:ตีราคาข้อมูลลูกค้าทุกแบบ

1. ข้อมูลตัวตนลูกค้า (Personal Identifiable data หรือ PII): เหล่านี้คือข้อมูลที่เก็บมาจากความยินยอมจากลูกค้าเท่านั้น ผ่านมากรอกแบบสอบถามหรือแบบฟอร์ม ข้อมูลตัวตนเช่นชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้แบรนด์ของคุณสามารถนำไปใช้ทำการตลาดเพื่อออกแบบแผนการขายเฉพาะตัวตนผ่านข้อมูลอีเมลล์ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้

2. ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า (Behavioral data): เป็นข้อมูลที่มักโดนมองข้าม พฤติกรรมของลูกค้าสามารถเก็บได้ผ่านโค๊ด Pixel ที่อยู่บนเว็บไซต์ของแบรนด์ มันจะช่วยเก็บข้อมูลคุ๊กกี๊ของลูกค้าที่เข้ามาในเว็บไซต์ทุกครั้ง

#3: รวมข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว

ทุกวันนี้เราใช้แพลทฟอร์มที่เรียกว่า DMP หรือ Data Management Platform มีหน้าที่ช่วยแบรนด์และนักการตลาดรวบรวมข้อมูลตัวตนลูกค้ากับข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้ามาไว้ด้วยกัน และนี่ทำให้ข้อมูลของลูกค้าทรงคุณค่าอย่างมาก อย่างไรก็ตามโปรแกรมแพลทฟอร์ม DMP มันมีราคาสูงเกินไป ทำให้หลายธุรกิจสู้ไม่ไหว อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ควรต้องมีช่องทางเก็บข้อมูลอย่าง Google Analytics, Facebook Pixel, Adwords Pixel เป็นของตัวเอง เป็นอย่างน้อย